เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็จะได้ทำศึกในนัดชิงชนะเลิศ ยูโรปาลีก ด้วยการพบกับ สเปอร์ส ที่ บิลเบา ซึ่งถือเป็นการลุ้นถ้วยใบนี้ สมัยที่ 2 หลังเคยทำได้เมื่อปี 2017 ในสมัยที่มี โจเซ มูรินโญ เป็นหัวเรือใหญ่
แน่นอนว่าผู้เล่นจากชุดแชมป์เมื่อ 8 ปีก่อน ก็ต่างแยกย้ายไปคนละทิศละทาง ทั้งแขวนสตั๊ด ถูกปล่อยยืมย้ายไปอยู่กับทีมอื่น ไปจนถึงข้ามน้ำข้ามทะเลไปเล่นลีกเกาหลี
อย่างไรก็ดี สำหรับ ทิโมธี โฟซู-เมนซาห์ อาจจะต่างออกไป เพราะตอนนี้เขาต้องกลายเป็นแข้งไม่มีสังกัดมาเกือบ 1 ปี ทั้งที่อายุเพียงแค่ 27 ปีเท่านั้น
เกิดอะไรกับอดีตนักเตะชุดแชมป์ยูโรปาลีกรายนี้? ติดตามไปพร้อมกัน
อดีตดาวโรจน์ แมนฯ ยูฯ
ทิโมธี โฟซู-เมนซาห์ เกิดและเติบโตที่อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ จากครอบครัวชาวกานา ก่อนจะก้าวเข้าสู่วงการฟุตบอล ในฐานะแข้งเยาวชนของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม
ทว่าตอนอายุ 16 เขาก็ตัดสินใจครั้งสำคัญ ด้วยย้ายข้ามประเทศมาอยู่กับทีมเยาวชน แมนฯ ยูไนเต็ด และถูกส่งลงสนามในทีมชุดใหญ่ครั้งแรกตอนอายุ 18 ในเกมเปิดบ้านเอาชนะ อาร์เซนอล 3-2 เมื่อปี 2016
จุดเด่นของ โฟซู-เมนซาห์ คือเขามีรูปร่างที่ค่อนข้างดี แถมยังเล่นได้หลายตำแหน่ง ตั้งแต่กองหลังตัวกลาง แบ็คขวา แบ็คซ้าย ไปจนถึงกองกลางตัวรับ
ในตอนนั้น แข้งชาวดัตช์ ดูเหมือนจะมีอนาคตที่สดใส เมื่อถูกส่งลงสนามถึง 10 เกมในฤดูกาล 2016-2017 แถมยังได้รับคำชมจาก หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือของปีศาแดงในขณะนั้น หลังเจ้าตัวระเบิดฟอร์มในเกมกับ วัตฟอร์ด
“วัตฟอร์ต เพรสซิ่งเราหนักมาก ทำให้เราได้แต่เตะบอลทิ้ง ด้วยเหตุนั้นทำให้พวกเขามีโอกาสอยู่หลายครั้ง” ฟาน กัล กล่าว
“แต่ ทิโมธี ช่วยชีวิตเราไว้ได้ถึง 3 ครั้ง ผมคิดว่าเป็นเพราะความเร็วของเขา และผมก็พอใจที่มีเขาอยู่ในสนาม ผมให้เขาอยู่ในสนามช่วงครึ่งหลัง เพราะเขาช่วยปิดโอกาสคู่แข่งให้เรา”
นอกจากนี้ เขายังมีโอกาสได้สัมผัสความสำเร็จของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนั้น หลังปีศาจแดงไปไกลถึงตำแหน่งแชมป์ เอฟเอคัพ แม้ว่านัดชิงเขาจะไม่ได้ลงเล่นก็ตาม
ทำให้ฤดูกาลต่อมา แม้จะเปลี่ยนโค้ชมาเป็น โจเซ มูรินโญ แต่ โฟซู-เมนซาห์ ก็ยังได้รับความไว้ใจ รวมถึงถูกต่อสัญญาออกไปจนถึงปี 2020 ที่แสดงให้เห็นความไว้เนื้อเชื่อใจของสโมสร
ทั้งนี้ฤดูกาล 2016-2017 ยังเป็นปีที่ โฟซู-เมนซาห์ ได้ลงเล่นในระดับที่สูงขึ้น หลังได้รับโอกาสลงสนามในยูโรปาลีก แม้จะเป็นช่วงท้ายเกมก็ตาม
แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการได้เป็นสักขีพยาน เห็นแมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ยูโรปาลีก จากม้านั่งสำรอง หลังเอาชนะ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม อดีตทีมเก่าของเขาในนัดชิงชนะเลิศ
ทว่า แทบไม่น่าเชื่อว่า ดาวโรจน์อนาคตไกลรายนี้ ต้องกลายเป็นนักเตะที่ไม่มีต้นสังกัดอยู่เกือบ 1 ปีเต็ม มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ผีไร้ศาล
หลังเห็นความสำเร็จของรุ่นพี่ โฟซู-เมนซาห์ รู้ดีว่าการนั่งอยู่ข้างสนามไม่พอ เขาต้องการเกมลงเล่นมากขึ้น และการปล่อยให้สโมสรอื่นยืมตัว ดูจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ในฤดูกาล 2017-2018 เขาถูกปล่อยให้ คริสตัล พาเลซ ยืมตัวไปใช้งาน และเขาก็ทำหน้าที่ได้ดี เมื่อได้รับโอกาสลงสนามไปถึง 24 เกมในทุกรายการ
ลุ้นโบนัส 150% สมาชิกใหม่รับ 11,240 บาท เมื่อเริ่มทายผล คลิกที่นี่
ฤดูกาลต่อมา ก็ยังเป็นช่วงเวลาแห่งการยืมตัว ครั้งนี้เป็น ฟูแลม ที่มารับช่วงต่อ ทว่า สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดมาจากการยืมตัวรอบนี้ เมื่อ โฟซู-เมนซาห์ มาได้รับบาดเจ็บหนักที่เอ็นไขว้หัวเข่า ในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน จนต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นการด่วน และถูกส่งตัวกลับถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด
นั่นเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต เมื่อาการบาดเจ็บ ทำให้ เขาต้องมองดูเพื่อนจากข้างสนามถึง 6 เดือน และราวกับเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เมื่อ 2 สัปดาห์ต่อมา โฟซู-เมนซาห์ ยังได้รับบาดเจ็บซ้ำที่หัวเข่า จนต้องพักต่ออีก 2 เดือน
แม้ว่าท้ายฤดูกาล เขาจะได้ลงสนามเพื่อฟื้นฟูความฟิตอีก 3 เกม แต่ตอนนั้นดูเหมือนจะไม่มีที่ว่างสำหรับเขาอีกแล้ว เมื่อเขาได้รับโอกาสลงสนามในครึ่งฤดูกาล 2020-2021 ไปเพียง แค่ 3 เกมเท่านั้น
แข้งชาวดัตช์เห็นว่าไม่ดีแน่ หากต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ต่อไป ในเดือนมกราคม 2021 เขาจึงตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน เพื่อหาโอกาสลงเล่นมากขึ้น
แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะไม่เป็นใจ เมื่อ โฟซู-เมนซาห์ มาได้รับบาดเจ็บซ้ำที่แผลเดิม แค่เพียง 2 เดือนหลังจากนั้น และต้องปิดเทอมไปก่อนใคร
หลังจากนั้นโอกาสของเขาก็เริ่มลดน้อยถอยลงเรื่อยๆ โดยมีอาการบาดเจ็บเป็นตัวเสริม และแม้ว่าเขาจะเป็นสมาชิกชุดไร้พ่ายของ ซาบี อลองโซ เมื่อฤดูกาล 2023-2024 แต่เขาก็ไม่ได้เล่นให้ เลเวอร์คูเซน แม้แต่เกมเดียวฤดูกาลดังกล่าว
ทำให้หลังจบซีซั่น โฟซู-เมนซาห์ จึงถูกปล่อยออกจากทีมแบบไร้ค่าตัว และยังหาสโมสรใหม่ไม่ได้นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2024 หรือเกือบ 1 ปี นับตั้งแต่ตอนนั้น
เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกซ้อมกับ จอง อาแจ็กซ์ ทีมสำรองของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เพื่อรักษาความฟิต และได้รับความสนใจจากหลายทีมในอังกฤษ โดยเฉพาะ สวอนซี กับ มิดเดิลสโบรห์ แต่สุดท้ายก็ไม่มีดีลไหนเกิดขึ้น เนื่องจากสโมสรเหล่านั้นกังวลเรื่องสภาพความฟิต
อันที่จริง เขายังได้ไปทดสอบฝีเท้ากับ โคโม ทีมดังใน เซเรียอา ที่มี เชสก์ ฟาเบรกาส เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้รับการเสนอสัญญาอะไรหลังจากนั้น
แทบไม่น่าเชื่อว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับนักเตะที่อายุเพียงแค่ 27 ปี และมันก็คือภาพสะท้อนชั้นว่าชีวิตนักฟุตบอลมันช่างแสนสั้น และแทบไม่มีอะไรแน่นอน